‘บล.ทิสโก้’ แนะเก็บ ‘หุ้นเงินปันผล’ เดือนกุมภาพันธ์-มี.ค. ข้างหลังราคาพุ่งทุกปี
บล.ทิสโก้คาดตลาดค้าหุ้นไทยตอนครึ่งเดือนแรกบางทีอาจย่อตัวรับสภาพคล่องแคล่วถูกดึงออกชั่วครั้งชั่วคราว ข้างหลังมีหุ้นไอพีโอ และก็บอนด์ “พวกเราชนะ” ออกใหม่ แนะอาศัยจังหวะทยอยซื้อหุ้นเงินปันผล พร้อมเปิดสถิติตอน กุมภาพันธ์-มี.ค. หุ้นเงินปันผลมักปรับพฤติกรรมขึ้นสะดุดตา
นายอภิชาติ ผู้เลิศล้ำกุล ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานพินิจพิจารณาเชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด เผยออกมาว่า ในตอนหลายปีที่ผ่านเลยมา ผลตอบแทนจากโบนัสถือได้ว่าเสน่ห์อย่างหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์ไทย เพราะว่านอกเหนือจากจะชนะอัตราเงินเฟ้อแล้ว ยังดีมากยิ่งกว่าเมื่อเทียบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีของไทย ที่อยู่ในระดับ 1.2% แค่นั้น ซึ่งจัดว่าออกจะต่ำเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ภาพรวมผลประกอบการของบริษัทลงบัญชีไทย (บจังหวัด) ในปี 2563 จะหดตัวร้ายแรง โดยคาดว่าจะติดลบเกือบจะ 40% จากผลพวงของวัววิด-19 แต่ว่าอัตราผลตอบแทนจากโบนัสของตลาดค้าหุ้นไทยคงจะอยู่ระดับถูกใจที่ราว 2% และก็คาดจะมากขึ้นเป็น 2.5% ในปี 2564 ซึ่งมากยิ่งกว่าตลาดค้าหุ้นทั้งโลกที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินโบนัสเฉลี่ยราว 2%
“ในส่วนของ หุ้นกรุ๊ปแบงค์ คาดว่าน่าจะกลับมาชำระเงินเงินปันผลได้ปกติในช่วงปลายกุมภาพันธ์นี้ ภายหลังที่ธนาคารชาติ (ธนาคารแห่งประเทศไทย) ได้ยกเลิกคำบัญชาการห้ามการชำระเงินเงินปันผลระหว่างกาล โดยจากการเล่าเรียนการเคลื่อนที่ราคาหุ้นที่มีการชำระเงินเงินปันผลสูงตั้งแต่แมื่อปี 2558 เป็นต้นมา พบว่า ในตอนก.พ.ถึงมี.ค.ของทุกปี ได้โอกาสมากถึง 83-100% ที่หุ้นเงินปันผลชอบได้ผลทดแทนที่ดีมากยิ่งกว่าตลาด (Outperform) รวมทั้งมักได้ผลทดแทนโดยรวมเฉลี่ยดีมากยิ่งกว่าตลาดโดยประมาณ 2.5% ด้วยเหตุผลดังกล่าว บล.ทิสโก้ก็เลยให้ความใส่ใจกับหุ้นเงินปันผลมากมายเป็นพิเศษสำหรับเพื่อการลงทุนในตอน 2 เดือนนี้” นายอภิชาติ กล่าว
นายอภิชาติ บอกว่า สำหรับกุมภาพันธ์นี้ ประเมินว่าตลาดค้าหุ้นไทยตอนครึ่งเดือนแรกจะมีลักษณะท่าทางแกว่งไกวไซด์เวย์ดาวน์-หาฐานใหม่ เนื่องจากว่ามีแรงกดดันจากแนวโน้มการปรับลดผลกำไรบจังหวัดตามภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งเดี๋ยวนี้นักวิเคราะห์ในตลาดเห็นว่าอัตราราคาปิดต่อผลกำไรต่อหุ้นของหุ้นไทย (SET EPS) ปี 2564 รวมทั้ง 2565 จะอยู่ที่ 76.9 บาท และก็ 90.8 บาทเป็นลำดับ ประกอบกับจำนวนเงินในตลาดบางทีอาจตึงตัวชั่วครั้งคราวจากการเสนอขายหุ้น IPO ขนาดใหญ่ ผสมโรงกับตลาดหุ้นฯ ที่จัดแจงปรับแต่งมาตรฐานหุ้นที่มีรูปทรงผู้ถือหุ้นรายย่อยอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ (ฟรีโฟลทต่ำ) ใหม่ ทำให้มีแรงขายปรับพอร์ตอยู่ในระยะสั้น
นายอภิชาติ บอกว่า ปัจจุบันนักลงทุนสถาบันในประเทศขายสุทธิม.ค. ตลอดเป็นเดือนที่ 5 ในเวลาที่นักลงทุนต่างประเทศพลิกกลับมาขายสุทธิ แล้วก็ยังไม่มีสัญญาณจำนวนเงินลงทุนไหลเข้าก้อนใหม่ ประสานกับการยืมเงินของรัฐบาลด้วยการออกพันธบัตรออมทรัพย์ ค่ารวม 6 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในโครงงาน “พวกเราชนะ” จะบีบคั้นจำนวนเงินลงทุนต่างประเทศ (ฟันด์โฟลว์) ตลอดจนกระทั่งกลางเดือนนี้ ก่อนจะได้โอกาสกลับมาไหลเข้าในตอนช่วงหลังของก.พ. ภายหลังที่หุ้นไอพีโอ ขนาดใหญ่เข้าขึ้นทะเบียนในตลาดแล้ว แล้วก็หมดช่วงเวลาการเสนอขายพันธบัตรออมทรัพย์พิเศษ “พวกเราชนะ”
นายอภิชาติ กล่าวอีกว่า ถ้าเกิดตลาดค้าหุ้นไทยปรับพฤติกรรมลงดังที่คาด บล.ทิสโก้ชี้แนะว่าควรที่จะใช้โอกาสนี้เป็นจังหวะทยอยตั้งรับ โดยมี 3 เรื่องการลงทุนที่น่าดึงดูดสำหรับก.พ.เป็น1. หุ้นเงินปันผลดี เสนอแนะ AP, DCC, KKP, รวมทั้ง SCB 2. หุ้นได้ประโยชน์จากวัคซีน-การฟื้นฟูสภาพทางด้านเศรษฐกิจ เสนอแนะ BDMS, SCGP แล้วก็ STGT รวมทั้ง 3. หุ้นที่มีต้นเหตุบวกหนุนส่วนตัว ชี้แนะ KCE และก็ TWPC