กรุงศรี คาดเงินบาทซื้อขายแลกเปลี่ยน กรอบ 29.90-30.15 จับตาการผลักดันและส่งเสริมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของเฟด
นางสาวรุ่ง รักษาเรือง ผู้อำนวยการ ข้างช่วยเหลือธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ แบงค์กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) คิดว่า ในอาทิตย์นี้จุดสนใจหลักของตลาดจะอยู่ที่การสัมมนาเฟด‪วันที่ 26-27 มกราคม ซึ่งคาดว่าการติดต่อสื่อสารกับตลาดเพื่อเน้นสัจจะที่จะส่งเสริมการฟื้นฟูสภาพของเศรษฐกิจเป็นเวลานาน ทั้งข้อคิดเห็นของเฟดที่มีต่อการปรับนิสัยสูงมากขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอเมริกานับจากต้นปีจะเป็นเหตุชี้ทางสำคัญต่อแนวทางค่าเงินดอลลาร์ ยิ่งกว่านั้น นักลงทุนจะจับตาข้อมูลจีดีพีไตรมาส 4/63 ของสหรัฐอเมริกา รวมทั้งแนวโน้มการสนับสนุนมาตรการกระตุ้นทางการคลังเก็บของซึ่งผู้นำไบเดนเคยเสนอไว้มากถึง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ เวลาที่กรุงศรีคาดว่าจะมีการตัดทอนขนาดของมาตรการลงสุดท้าย ในสภาวะแบบนี้ คาดว่าตลาดอัตราแลกเปลี่ยนบางทีอาจย่ำฐานตอนสั้นเพื่อรอคอยความกระจ่างถัดไป‬
สำหรับเหตุในประเทศนั้น กระทรวงพาณิชย์ได้รายงานการส่งออกขยายตัว 4.71% เมื่อเทียบกับเวลาเดียวกันของปีกลายหน้า ซึ่งเป็นอัตราสูงสุดในรอบ 22 เดือน ตามแนวทางเศรษฐกิจโลกแล้วก็เศรษฐกิจคู่ค้า ดังนี้ ในปี 2563 ค่าส่งออกต่ำลง 6.01% ในช่วงเวลาที่ยอดนำเข้าหดตัว 12.39% นำมาซึ่งการทำให้ไทยเกินดุลกิจการค้า 2.45 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์คาดว่าการส่งออกในปี 2564 นี้จะเติบโตได้ 4%
ส่วนทางด้านรัฐมนตรีคลังเก็บของประเมินว่า เศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวได้ 3-4% ถึงแม้พบเจอกับการระบาดระลอกใหม่ โดยคาดว่าการแพร่ระบาดรอบนี้จะควบคุมได้ข้างในเดือน มี.ค. ในช่วงเวลาที่มีต้นสายปลายเหตุบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การฟื้นฟูสภาพของภาคส่งออก แล้วก็กระจัดกระจายวัคซีน ส่วนปริมาณนักเดินทางฝรั่งยังไม่อาจจะฟื้น นอกเหนือจากนี้ กระทรวงการคลังยังมีความเห็นว่าดอกหลักการของไทยต่ำมากมายแล้ว และก็เห็นว่าการอาจดอกควรจะก้าวเดินต่อไปจวบจนกระทั่งจะแน่ใจว่าเศรษฐกิจฟื้นแจ้งชัด ส่วนใจความสำคัญค่าเงิน อยากให้ธนาคารชาติดูแลเสถียรภาพเพื่อช่วยเหลือให้ภาคธุรกิจสามารถบริหารทุน
ในขณะที่ว่าที่รัฐมนตรีคลังเก็บของแล้วก็สมัยก่อนประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา(เฟด) เจเน็ต เยลเลน เจาะจงถึงว่าประโยช์จากมาตรการแก้ไขขนาดใหญ่มีมากยิ่งกว่าเงินลงทุนภาระหน้าที่หนี้สินภาครัฐที่มากขึ้น ทางด้านธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)เตือนว่าการติดเชื้อโรค COVID-19 ที่พุ่งขึ้นเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสี่ยง โดยอีซีบีลงความเห็นอาจจะดอกเงินออมไว้ที่ระดับติดลบ 0.50% แล้วก็คงจะโควต้าสำหรับในการซื้อพันธบัตรในโครงงานเร่งด่วนจากเหตุการณ์โรคระบาด(PEPP) ไว้ที่ 1.85 ล้านล้านยูโร พร้อมที่จะจัดส่งสัญญาณออกมาตรการเพิ่มอีกถ้าจำเป็นต้อง ดังนี้ นักลงทุนฝรั่งขายสุทธิในตลาดค้าหุ้นไทย 3.6 พันล้านบาท แต่ว่าซื้อพันธบัตร 7.2 พันล้านบาท

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *